แพทเทิร์นเสื้้อผ้าสำเร็จรูปช่วยคุณได้
การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีแพทเทิร์นสวย ทันสมัย ดูดี ประกอบกับการตัดเย็บออกมาอย่างปราณีต ยิ่งทำให้ผู้สวมใส่มีความมั่นใจ ใครๆก็ย่อมอยากจะแต่งกายให้เข้ากับตัวเอง และตามความชอบส่วนตัว
เคยมั้ยคะ บางครั้งเห็นชุดที่ชอบ มีขายอยู่ตามร้าน ดูดี สวย แต่ราคาค่อนข้างแพง หรือไปลองสวมใส่ดูแล้วแพทเทิร์นไม่พอดีตัว ไซส์ของชุด ก็ไม่ค่อยมีให้เลือก หรือไม่เห็นเหมือนที่คิดเอาไว้ อยากจะแก้ตรงนี้นิด เพิ่มตรงนั้นอีกหน่อย
สรุปก็คืออยากจะตัดใส่เองให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่....ติดปัญหา ทำแพทเทิร์นไม่เป็น ทำแพทเทิร์นไม่เก่ง ฯลฯ
วันนี้เรื่องของแพทเทิร์นจะไม่เป็นปัญหากับคุณอีกต่อไป เพราะเดี๋ยวนี้เขามีแพทเทิร์นเสื้อผ้าสำเร็จรูปขาย หรือสั่งทำแพทเทิร์นเสื้อตามแบบ และไซส์ของเราเองก็ยังได้ เห็นมั้ยล่ะคะ ว่ายุคนี้อะไรก็ดูง่ายไปหมด เมื่อหมดกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องของการสร้างแพทเทิร์นเสื้อผ้าแล้ว ก็เอาเวลามาเลือกซื้อผ้า และเตรียมวัสดุอุปกรณ์ แล้วลงมือตัดเย็บชุดสวยๆของคุณกันดีกว่า วันเดียวก็เสร็จแล้วล่ะค่ะ
มาภาคภูมิใจในฝีมือของคุณเอง แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋า เผลอๆอาจกลายเป็นอาชีพรายได้งาม อีกด้วยค่ะ ^_^ ^_^ ^_^
ก่อนจะลงมือตัดเย็บชุดสวยของคุณ มาเตรียมตัวกันสักนิดนะคะ
เครื่องมือและอุปกรณ์ในการตัดเย็บ มีดังนี้
ฺ อุปกรณ์ที่ใช้วัด
1.สายวัด
2.ไม้บรรทัด
3.ไม้ฉาก
4.ไม้โค้ง
อุปกรณ์ที่ใช้ตัด
5.กรรไกร
6.ที่เลาะผ้า
7.ลูกกลิ้ง
8.ดินสอ
9.ยางลบ
10.กระดาษกดรอย(กระดาษคาร์บอน)
11.ชอล์กเขียนผ้า
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเย็บ
12.เข็มเย็บมือ
13.เข็มจักร
14.เข็มหมุด
15.ด้ายเย็บผ้า
16.หมอนเข็ม
17.ปลอกนิ้ว
18.เตารีด
19.หมอนรองรีด
20.ที่รองรีด
21.จักรเย็บผ้า
การวัดตัว
การวัดตัว ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะจะมีผลทำให้การทำแพทเทิร์นเสื้อผ้าออกมา ได้ตรงกับรูปร่างของเรา ควรวัดให้ละเอียดนะคะ
- เพื่อความแม่นยำ ควรใส่เพียงชุดชั้นในขณะวัดตัว
- ตอนที่วัด ต้องยืนตัวตรง
- จับสายวัดให้พอดี ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป
- เช็คสายวัดโดยรอบ ให้อยู่ในระดับเดียวกัน
- ควรจะวัดเป็นหน่วยเซนติเมตร เพราะจะละเอียดกว่าหน่วยนิ้ว
- ขณะที่วัด ควรจะส่องกระจกไปด้วย จะช่วยให้มองเห็นตำแหน่งวัดได้ชัดเจน
รอบเอว : ส่วนที่คอดที่สุดของลำตัว (ใช้เชือกหรือเทปริบบิ้นผูกไว้ จะได้เห็น ตำแหน่งชัดเจน)
รอบสะโพกเล็ก : หน้าท้อง วัดจากเอวลงมา 8 - 12 เซนติเมตร
รอบสะโพกใหญ่ : ส่วนที่กว้างที่สุดของสะโพก
ยาว เอวหน้า - พื้น : กลางเอวหน้าถึงพื้นที่ยืน
ยาว เอวหลัง - พื้น : กลางเอวหลังถึงพื้นที่ยืน
ยาว เอวข้าง - พื้น : ข้างเอวถึงพื้นที่ยืน
รอบคอ : รอบฐานคอ วัดให้พอดี
รอบอก : ผ่านจุดยอดอก สายวัดต้องขนานกับพื้น
อกสูง : ปุ่มกลางคอหน้าเฉียงลงมาจุดยอดอก
อกห่าง : จากจุดยอดอกข้างหนึ่ง มาอีกข้างหนึ่ง
ยาวหน้า : ปุ่มคอหน้าถึงเอว
ยาวหลัง : ปุ่มคอหลังถึงเอว
บ่าหน้า : วัดระยะจากข้างรักแร้ข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง(ด้านหน้า)
บ่าหลัง : วัดระยะจากข้างรักแร้ข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง(ด้านหลัง)
ไหล่กว้าง : หัวไหล่ซ้ายถึงหัวไหล่ขวา
รอบต้นแขน : วัดส่วนที่ใหญ่สุดของโคนแขน
รอบวงแขน : รอบรักแร้โดยผ่านปุ่มไหล่
รอบข้อมือ : ส่วนที่เล็กที่สุดของข้อมือ
ยาว ไหล่ - ศอก : ปุ่มหัวแขนถึงกลางข้อศอก
ยาว ไหล่ -ข้อมือ : ปุ่มหัวแขนถึงข้อมือ
ข้างคอปุ่มไหล่ : ปุ่มข้างคอถึงปุ่มไหล่
การเลือกเนื้อผ้าที่ใช้ในการตัดเย็บ
ถือว่ามีความสำคัญพอๆกับการออกแบบ และการตัดเย็บ ดังนั้นควรจะต้องมีความรู้เรื่องของผ้าบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับแพทเทิร์นเสื้อผ้าแต่ละแบบ ที่จะนำมาตัดเย็บชุดของคุณ เพราะแต่ละเนื้อผ้าก็จะมีความสวยงามและคุณสมบัติต่างๆกัน
โดยหลักๆแล้วเนื้อผ้าแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ
- ผ้าที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติ จะมีคุณสมบัติ
ระบายความร้อนได้ดี
สวมใส่สบาย
ยับง่าย
- ผ้าที่ทอจากเส้นใยสังเคราะห์ คุณสมบัติ
เนื้อมันวาว ลื่น
ระบายความร้อนได้ไม่ดี
ไม่ยับง่าย
ชนิดของผ้า
ป่าน : เนื้อจะบางโปร่ง เบาสบาย ซับเหงื่อ เหมาะกับอากาศร้อน
ฝ้าย : ดูดซับความชื้น ใส่แล้วเย็นสบาย แต่มีข้อควรระวังเรื่องหดเวลาซัก
ลินิน : เนื้อจะเงามัน ยับง่าย
ยีนส์ : เนื้อหนา หนัก แต่ทนทาน
ชีฟอง : เนื้อบางโปร่ง สวมใส่สบาย เหมาะกับเสื้อผ้าแนวหวานๆ พริ้วๆ
ไนลอน : เนื้อเป็นรูๆ คล้ายพลาสติก กันน้ำได้
มัสลิน : ทำจากการฟอกขาวเส้นด้ายดิบหรือไหม ระบายอากาศได้ดี
ซาติน : ผิวมันวาว ดูหรูหรา เหมาะกับตัดเดรสออกงานกลางคืน
สักหลาด : เกิดจากการอัดจากใยสังเคราะห์เป็นแผ่น
ผ้าใบ : เนื้อหยาบ ทนทาน เหมาะทำกระเป๋า รองเท้า
ลูกฟูก : เป็นเส้นคลื่นๆ นิยมนำมาตัดกางเกง กระโปรง
ขนสัตว์ : ดูดความชื้น หดเมื่อเปียก นิยมตัดเป็นเสื้อกันหนาว
ลูกไม้ : เกิดจากการถักโดยเครื่อง มีลวดลายสวยงาม
สำหรับผู้ฝึกตัดเย็บใหม่ๆ ควรเลือกใช้ผ้าที่ตัดเย็บง่าย จับถนัดมือ
เช่น ผ้าฝ้าย ลินิน ก่อน เมื่อชำนาญแล้วค่อยเปลี่ยนไปลองเย็บผ้าเนื้ออื่นๆค่ะ
สิ่งที่ควรคำนึงถึงทุกครั้งในการเลือกใช้ผ้า
- สวมใส่สบายตัว ไม่ร้อน ไม่ระคายเคืองผิว
- หลีกเลี่ยงผ้าที่มีเชิงหัวท้าย เพราะจะวางแพทเทิร์นยาก (ยกเว้น ชำนาญแล้ว)
- เนื้อผ้ามีความคงทน ไม่ขึ้นขน หรือขาดง่าย ไม่ยืดย้วย หรือหดตัวเวลารีด
- ระวังผ้าสีตก เวลาลงน้ำหรือซัก( โดยเฉพาะผ้าสีเข้ม หรือ ใช้ตัดต่อกับผ้าสีอ่อน )
การคำนวณผ้าสำหรับการตัดเย็บ
ในการเลือกซื้อผ้านอกจากจะคำนึงถึง ความยาวของแบบแพทเทิร์นที่จะตัดการเลือกหน้าผ้า "หน้าแคบ" หรือ "หน้ากว้าง" ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะการ เลือกใช้หน้าผ้าอย่างเหมาะสม จะเป็นการลดความสิ้นเปลือง ไม่ให้มีเศษเหลือทิ้งและประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วยค่ะ
หน้าผ้าที่พบได้ทั่วไป ( หน้าผ้า คือ ด้านแนวตัดตามขวางของผ้า )
- ผ้าหน้าแคบ หรือเรียกอีกอย่างว่า " หน้าธรรมดา" หน้าประมาณ 36-45 นิ้ว
- ผ้าหน้ากว้าง หน้าประมาณ 60 นิ้ว
เช่น เสื้อแขนสั้น ถ้าใช้ผ้า หน้าแคบ 1.75 ม. , หน้ากว้าง 1.25 ม.
เสื้อแขนยาว ใช้ หน้าแคบ 2 ม. , หน้ากว้าง 1.75 ม.
กระโปรงทรงสอบ ใช้ หน้าแคบ 1.5 ม. , หน้ากว้าง .75-1 ม.
กระโปรงจีบรอบตัว ใช้ หน้าแคบ 2.25 ม. , หน้ากว้าง 1.75 ม.
กางเกงขายาว ใช้ หน้าแคบ 2.5 ม. , หน้ากว้าง 1.25 ม.
วิธีใช้แพทเทิร์นเสื้อผ้าสำเร็จรูป
ตัดชิ้นแพทเทิร์นแต่ละชิ้นออกจากแผ่นใหญ่ โดยตัดตามเส้นที่อยู่ด้านนอกสุด ส่วนเส้นด้านในที่เหลือ ก็คือเส้นแนวเย็บ ( แนวฝีเข็ม หรือเรียกว่า เส้นกลิ้งผ้าก็ได้ โดยรองกระดาษคาร์บอนไว้ใต้ผ้า แล้วใช้ลูกกลิ้ง กลิ้งให้เกิดแนวเส้นเย็บขึ้นมา)
ขั้นตอนการวางแบบแพทเทิร์นลงบนผ้า
ข้อควรระวัง
- ก่อนลงมือวางแบบแพทเทิร์น ควรสำรวจดูตำหนิของผ้าก่อน เช่น สีผ้าด่าง , ปมด้ายเป็นเม็ดๆ , มีเส้นวิ่งในแนวผ้าหรือไม่ ฯลฯ ถ้ามีเวลาวางแบบแพทเทิร์นควรเลี่ยงตำแหน่งไม่ให้โดนตำหนิเหล่านี้ เพื่อความสวยเพอเฟกซ์ ของเสื้อผ้าค่ะ
- ควรทำทำการทดสอบความหดของผ้า โดยการนำไปแช่น้ำแล้วตากให้แห้งก่อนวางแพทเทิร์น
- ควรจะวางแพทเทิร์นให้ถูกต้อง ตามแนว"เกรนผ้า" เพื่อรูปทรงที่สวยงาม( เกรนผ้า หรือเครื่องหมาย <------------> บนชิ้นแพทเทิร์น จะอยู่แนวเดียวกับแนวเส้นด้ายยืนของผ้า หรือโดยทั่วไป เกรนผ้าจะอยู่ตามแนวยาวของชุด ,เสื้อ ,กระโปรง ,กางเกง ,แขนเสื้อ นั่นเอง
การวางแบบแพทเทิร์นบนผ้า
- แผ่ผ้าให้เรียบ บนพื้นผิวที่เรียบเสมอกัน ( ถ้าผ้ายับก็ควรจะรีดให้เรียบก่อนนะคะ )
- วางชิ้นแพทเทิร์นลงบนผ้า (ดูให้เกรนผ้าตรงกับเส้นด้ายยืนของผ้า)
ถ้าวางผ้าเฉลียง ควรจะพับผ้าให้ได้มุม 45 องศา ก่อน แล้วค่อยวางแพทเทิร์น
- ลองวางชิ้นแพทเทิร์นให้ครบทุกชิ้นก่อน
- ใช้เข็มหมุดกลัดลงบนชิ้นแพทเทิร์นและผ้า จากนั้นตัดออกเป็นชิ้นๆ ตามแบบ ทำเครื่องหมาย และกลิ้งเส้นเย็บโดยใช้ลูกกลิ้ง กับกระดาษคาร์บอน และชอล์คสี เพื่อเตรียมเย็บประกอบเป็นตัวเสื้อต่อไปค่ะ